คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ

คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ - Sahabat yang berbahagia, kali ini Kejar Tayang akan memberikan informasi penting , viral dan terupdate dengan judul คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ yang telah kami analisa dan cari persiapkan dengan matang untuk anda baca semua. Semoga imformasi yang kami sajikan mengenai Artikel Berita Artis, yang kami tulis ini dapat anda menjadikan kita semua manusia yang berilmu dan barokah bagi semuanya.

Judul : คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ
link : คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ

Kejar Tayang | artisdiberitain.blogspot.com

แต่สุดท้าย...“ระบบหน่วยงาน” ก็ยังเป็นระบบข้าราชการ ที่มี “นายกรัฐมนตรี” เป็นผู้มีอำนาจบริหารราชการเช่นเดิม ส่วนที่สอง...ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เครื่องมือกลไกขับเคลื่อนองค์กรตำรวจในด้านการปฏิบัติหน้าที่ ที่ให้มีอำนาจการแต่งตั้ง หรือถอดถอน ผบ.ตร.ได้เสมอ

หนำซ้ำ...การบริหารงานใน “องค์กรตำรวจ” ยังเป็นรูปแบบ “รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง” โดยมี “ผบ.ตร.” เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ในการบริหารบุคคล แต่งตั้งโยกย้าย กลายเป็นส่วนราชการอยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อ “นายกรัฐมนตรี” ที่มาจากการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่า...กลไกการสั่งงานขึ้นตรงกับฝ่ายการเมืองหรือไม่

แม้มองกันว่า “นายกรัฐมนตรี” มีอำนาจสั่งการตำรวจได้โดยตำแหน่งอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติไม่ใช่ทุกเรื่องได้ เพราะบางครั้งข้าราชการประจำ ก็มีอำนาจแสดงความคิดเห็นคัดค้านเรื่องนั้นก็ได้ ถ้าเป็นคำสั่งขัดระเบียบข้อบังคับในกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่ “ผู้คัดค้าน” จะถูกกลไก “อำนาจฝ่ายบริหาร” ใช้ระเบียบวินัยมาบังคับแทน

จนกลายเป็นวัฒนธรรม “ปิดตาข้างเดียว” ในวงการข้าราชการไทย เช่น “ทายาทคนดังขับรถหรู ชน จยย.ตำรวจ” คดีผ่าน 4-5 ปี กลับไม่มีการออกหมายจับ หรือมีสารเสพติดในร่างกาย ก็ไม่ถูกตั้งข้อหาในสำนวนคดี ทำให้เกิด “ข้อครหา” ที่ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามมาอย่างที่เห็นกันนี้...

กระทั่ง “ผบ.ตร.” ออกมายอมรับว่า “มีข้าราชการตำรวจราว 20 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่อง” จนต้องมีการลงโทษทางวินัยและอาญาต่อไป ต่อเนื่องเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ “สองมาตรฐาน” ในการ “ออกหมายจับกลุ่มนักศึกษา” ที่เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการเร่งดำเนินการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพ “กลไกการใช้กฎหมาย” ที่ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้ภายใต้โครงสร้างตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ต้องขึ้นตรงกับ “นายกรัฐมนตรี” ส่งผลให้ถูกมองว่า “การเมือง” อาจสามารถเข้ามาแทรกแซง ทำให้สอดคล้องกับผลการศึกษาวิจัยของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และวิจัยของหน่วยงานอื่นๆ

ตอกย้ำว่า...การบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย ถูกแทรกแซงจาก “ปัจจัยภายใน และภายนอกองค์กรตำรวจ” ส่งผลให้ขาดความโปร่งใส เสมอภาค และความเป็นธรรม ทำให้ต้องมี “การปฏิรูปตำรวจ” ที่อยู่ในขั้นตอนร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ... และกำลังจะเข้า ครม.และสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาตามลำดับ

แต่มีข้อกังวลอยู่ว่า จะผ่านวาระ 2 หรือวาระ 3 หรือไม่ เพราะมักยื่นญัตติปรับแก้เพิ่มเติม สุดท้ายก็คงเหมือนปี 2549 ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจนี้ตกไป สาเหตุจาก “นักการเมืองบางคน” ต้องการดูแล “องค์กรตำรวจ” เพราะเป็นผู้มีหน้าที่ตั้งเรื่องฟ้องคดี ขอหมายจับ และการจับกุม เพื่อให้ได้มาในการควบคุมกลไกการบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด

โดยเฉพาะ “ตำรวจ” ที่มีอยู่ทั่วประเทศราว 2 แสนกว่านาย ต่างมีความใกล้ชิดกับประชาชนอยู่ตลอด ดังนั้นถ้าบุคคลใดคุมกลไกนี้ได้จะทำให้มี “อำนาจเบ็ดเสร็จ” ในต่างประเทศเรียกระบบนี้ว่า “Political tools หรือเครื่องมือทางการเมือง” ทำให้มักถูกแทรกแซง ขาดความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่บ่อยครั้ง

เมื่อเป็นเช่นนั้น... “คดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง” เช่น “การชุมนุมขับไล่รัฐบาล” จะมีการดำเนินการอย่างเร่งรัดมากกว่าคดีทั่วไป เพราะกลไกการบังคับใช้กฎหมายของ “ตำรวจ” โดยมี “ผบ.ตร.” เป็นศูนย์รวมอำนาจสั่งการนี้ต้องอยู่ใต้บังคับบัญชา “ฝ่ายการเมือง” ถ้าไม่ดำเนินการอะไรก็อาจถูกกระทุ้งจี้อยู่เช่นเดิม

ทว่า... “องค์กรทหาร” กลับมีความแตกต่างจาก “องค์กรตำรวจ” เพราะมี “กฎหมายจำเพาะ” ให้อำนาจ “ผู้บัญชาการทหาร” ในการบังคับบัญชาควบคุมกำลังพล ทำให้ไม่ต้องมาอิงกับฝ่ายการเมือง แม้ว่า “รมว.กลาโหม” ที่ได้มาจาก “ฝ่ายการเมือง” แต่ก็ควบคุมดูแลในส่วนของ “เชิงนโยบาย” เป็นหลัก

ประเด็น... “กลุ่มนักศึกษาและประชาชน” ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยนี้ต้องยอมรับว่า “สังคมประชาธิปไตย” ทุกคนมีสิทธิแสดงออกทางความคิดเห็นแตกต่างกันได้ เพราะ “ประเทศก็เสมือนครอบครัวใหญ่” ที่ต้องมี “พ่อแม่” เป็นผู้ดูแล เมื่อ “ลูก” ไม่ยอมกินข้าว เพราะ “ทำการบ้าน” เช่นนี้พ่อแม่ก็ต้องรับฟังเหตุผลลงโทษไม่ได้

เช่นเดียวกับเหตุการณ์ “นักเรียน นักศึกษา” เปรียบเสมือน “ลูก” ที่มี “นายกรัฐมนตรี” เป็น “พ่อ” ผู้ต้องดูแลบ้านเมือง เมื่อมีการเรียกร้องให้ดูแลแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่ง “คนเป็นพ่อ” จะไม่สนใจเลยหรอ! เพราะ “เด็กเยาวชน” ในวันนี้ก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า และมีหน้าที่ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศต่อไป

ดังนั้น “ผู้เป็นพ่อ” ต้องเปิดใจให้กว้างรับฟังทุกเสียง ส่วนผู้เรียกร้องนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญ “ผู้ใหญ่” ไม่ควรใช้กลไกกฎหมายมาบังคับความขัดแย้ง เพราะอาจก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้

“ในโลกประชาธิปไตย” มักเลือกกลไกการบังคับใช้กฎหมายเป็นสิ่งสุดท้ายเสมอ เรียกว่า “Last Resort หรือทางเลือกสุดท้าย” ที่ต้องเริ่มต้นด้วยการใช้กระบวนการพูดคุยเจรจาเป็นหลัก เพราะหากใช้กลไกบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนเห็นต่างนี้ จะไม่ช่วยแก้ไขปัญหายุติความขัดแย้งที่ดีได้

สิ่งนี้ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายใหญ่โตมากขึ้น เพราะ “ประชาชน” กำลังมองว่า “ตำรวจ” เป็นข้าราชการหน่วยงานรัฐ ที่มีประชาชนเป็นผู้จ่ายภาษี เพื่อจ่ายเงินเดือน หรือจัดซื้ออุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นผู้ขับเคลื่อนบังคับใช้กฎหมาย ก็เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนประชาชน ที่ต้องไม่เป็นคู่ปฏิปักษ์ขัดแย้งต่อกัน

แต่ด้วย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 อาจต้องบังคับให้ตำรวจเลือกข้างอยู่ “ฝ่ายการเมือง” เพราะหากไม่รับฟังคำสั่งอาจถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามมา...ที่มีข้อสังเกตได้จาก “ทายาทคนดังขับรถชนรถตำรวจเสียชีวิต” คดีผ่านมานานกว่า 8 ปี ไม่มีการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่กรณี “นักศึกษา” กลับมีการรวบรัดออกหมายจับอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นถึงความแตกต่างชัดเจน เพราะ “ปัญหาขัดแย้งทั่วโลก” ไม่เคยยุติด้วยความรุนแรง มักจบด้วยการพูดคุยหาทางออกร่วมกันเสมอมา แม้ใน “ยุคฮิตเลอร์” มีความขัดแย้ง จนนำสู่ “สงครามโลก” สุดท้าย “ยุติสงครามด้วยการพูดคุย” เช่นเดิม

ย้ำอีกว่า...“ความขัดแย้งทางความคิด” ไม่สามารถ “ยุติ” ด้วยกลไกการบังคับใช้กฎหมาย ที่ยังมี “ข้อครหาความไม่เป็นธรรมอยู่” ได้แน่นอน.




August 29, 2020 at 05:02AM
https://ift.tt/2QA65UM

คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ

https://ift.tt/2XGANzD

Cukup Sekian Informasi Tentang คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ

Sekianlah artikel คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ kali ini, mudah-mudahan bisa memberi manfaat untuk anda semua. baiklah, sampai jumpa di postingan artikel lainnya.

Anda sekarang membaca artikel คดีชุมนุม-ทายาทคนดัง สั่น! ศรัทธาใช้กฎหมาย - ไทยรัฐ dengan alamat link https://kejartayang11.blogspot.com/2020/08/blog-post_28.html

Subscribe to receive free email updates:

Related Posts :